บ่น 0
ทำไมเราถึง verbal attack in undermine way ได้ขนาดนี้นะ
ทำไมต้องรู้สึกทั้งสองขั้วตรงข้ามพร้อมๆกันด้วย
แล้วมันก็paradoxในตัวเอง แล้วมันรำคาญตัวเองนะในแง่นึง เสียสุขภาพจิตหมด
เฮ้อ~~~~
T_T
(ไม่มีน้ำตาก็ร้องเป็นตัวพิมพ์ก็ได้)
สารภาพ 8
พี่รู้ว่าพี่นิสัยไม่ดีหลายๆอย่าง
ขี้งกงี้ เห็นแหละว่าน้องไม่กล้ามายืมnotebookพี่
จู่ๆก็ดูเครียด เมินๆ friendlyแบบติดลบเสียเฉยๆงี้
พี่ก็คิดว่าน้องคงคิดเขม่นๆพี่เรื่องพวกนี้อยู่ในใจ
แต่..พี่คิดแล้วเหมือนกันว่าพี่ไม่อยากเปลี่ยนให้มันดีกว่านี้
ที่จะพูดต่อไปนี้อาจฟังไม่เข้าใจนะ
คือเราเริ่มต้น มีนิสัยไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้ตัวว่ามันไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วก็ชอบมอง/วิจารณ์คนอื่นว่ามันไม่ดี เห็นคนอื่นชั๊ดชัด แต่ตาบอดกับการมองตัวเอง
then โตขึ้น ตระหนัก + เปลี่ยนแปลงนิสัยไม่ดีพวกนั้นมีจุดยืนว่านี่ดี นี่ไม่ดี
และconformตัวเองให้ทำแต่สิ่งที่ดี แม้ว่าหลายอย่างมันทำให้เรารู้สึกไม่ดีเองข้างใน รู้สึกทุกข์ในอกแต่มัน..ตามcommon sense of society อ่ะถ้าไม่ให้ก็ถูกมองว่างก ถ้าให้ก็ต้องมานั่งกังวลกระวนกระวายเองอีกว่าของจะบุบบสลาย ถูกขีดข่วนเป็นรอยป่าว แต่----ภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาส่วนรวมมีน้ำหนักกว่าภาพลักษณ์ที่ซื่อสัตย์กับตัวเองไง ถ้าเลือกตามใจตัวเองก็ต้องรับผลพลอยได้ที่เราไม่อยากได้นั่นมาด้วย โอเค ตัดสินใจยอมทุกข์ชั่วคราว แล้วก็จบที่การปลอบตัวเองด้วยคำเดิมๆ จำพวก 'ช่างมันเหอะ' 'ไม่เป็นไรหรอก' 'นิดหน่อยเองน่า'
then พี่หมายถึงตอนนี้ คือความคิดพี่ก็เปลี่ยนไป พี่รู้สึก ช่างแม่งคุณความดีพวกนั้นบ้างก็ได้
ดูนิสัยไม่ดีบ้างก็ได้ กับบางเรื่องซึ่งอันนึ้ก็ดูอีกที ไม่ใช่ว่าปล่อยเลวสุดตีนไปเรย คือbase on สามัญสำนึกด้วยอ่ะ ส่วนใหญ่พี่จะไม่ปล่อยช่างแม่งกับเรื่องใหญ่ๆสำคัญๆนะ แต่ถ้ามันนิดๆหน่อยๆและมันไม่ได้ทำใครเดือดร้อน อย่างพี่ดูขมึงทึงมันก็ตัวพี่คนเดียวอ่ะ หน้าขมึงทึงของพี่มันไม่ได้ไปกัดหน้าน้องหนิ ใช่ป่ะ คือถ้าประมาณนี้พี่ก็..too tired to prepare my faceอ่ะ ขอแสดงสีหน้าที่จริงใจกับความรู้สึกข้างในหน่อยเหอะนะ ชีวิต 24 ชั่วโมงของพี่มันโลดโผนข้างนอกมาทั้งวันแล้ว นี่อยู่ในห้องที่เป็นที่สุดท้ายของวัน..ที่นอน..พื้นที่ส่วนตัวที่สุดของวันแล้วอ่ะ พี่ขอปลดพันธนาการทางสีหน้าพวกนั้นออกหน่อยเหอะนะ แล้วพี่ก็..ปล่อยวางกับการมาแคร์ว่าคนอื่นจะคิดยังไง เค้าจะมองเราไม่ดีมั้ยแล้วด้วย เหมือนมันมาถึงจุดๆหนึ่ง(เป็นจุดที่เบลอมั่กๆเลยนะ จุดชิ้นกว้างมากด้วย)แล้วพี่ก็ ผึง! ไม่เอาและแบบนี้ อืม~~~~มันเหมือนข้างในพี่แข็งแรงพอแล้วอ่ะตอนนี้ มันไม่ถูกทำร้ายโดยการjudgeของคนอื่นได้ง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนแล้วและพี่ก็คิดว่าพี่จะทุ่มเทนิสัยดีๆในส่วนที่พี่เห็นว่าควรจะนิสัยดี แต่ขอมีพื้นที่เล็กๆที่พี่จะเป็นอะไรไม่ค่อยดี-ไม่ดีเลยตามที่พี่เห็นว่ามันโอเค ส่วนตัว คนอื่นไม่เดือดร้อน เป็นเกณฑ์สำคัญมากเลยนะในความตระหนักของพี่ ถามตัวเองว่าแล้วคนอื่นเดือดร้อนรึป่าวอ้อ ที่จริงพี่พร้อมจะให้ยืมทุกสิ่งอันเสมอถ้าเป็นน้องขอนะคือเรื่องงกเนี่ย พี่งกเป็นคนๆไป พี่ก็เข็ดกับบทเรียนการยืม-คืนเป็นเหมือนกันกับคนที่ให้บทเรียนนี้พี่ พี่งกแบบสัมพัทธ์น่ะ น้องจะจำกัดความว่าพี่งกก็ได้พี่ไม่ว่าไร
แต่ลองคิดกับคำถามนี้ดูว่าส่วนใหญ่ปัจจัยเวลาเราตัดสินใจ 'ไม่ให้' เพราะตัวของ..หรือตัวคน?
เพื่อน 8
เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เหมือนผู้ชายคนไหน
ทั้งลึก ทั้งตื้น
ทั้งฉลาด ทั้งเอ๋อ
ทั้งเป็นผู้ชาย ทั้งไม่เป็นผู้ชาย
แกเป็นทั้งหมดที่ว่านี่ได้ไงวะ
แกเอาชั้นไปแฉกับใครต่อใครถึงไหนแล้วเนี่ย
แต่ฟังแกเล่าก็ขำ
'พี่(thai short film)เค้าบอกว่า (ทำเสียงขรึมขึ้นนิดหนึ่ง) อย่าพามานะ'
'เค้าหมายความว่าไงวะ' เราถาม
'เค้ากลัวแกอ่ะดิ!'
....???????? กลัวไมเพ่ หึหึหึ(น้ำเสียงตัวอะไรไม่รู้ที่เหมือนคนในเรื่อง lost highway)
แล้วมันก็ชอบพูดทำนองว่าใครเป็นแฟนเราคงกลัวว่าตื่นเช้ามาเห็นแขนตัวเองขาด....ไรทำนองเนี้ย
(หืม--------กูไม่ใช่โรคจิตนะเว้ย!
ลิ้นแกจะขาดก่อนตอนนี้แหละ)
ช่างเพศแม่งมัน เอาเป็นว่าแกเปนคนนึงที่เรารู้สึกเล่นแรงได้
รู้สึกเปนตัวของตัวเองได้(มากเกินไปป่าวด้วยซ้ำ บางทีเราคิด)
เหมือนแกไม่ใส่ใจรายละเอียดความเป็นตัวเรา
(คือไม่ได้เสแสร้งไม่ใส่ใจนะแต่แกทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)
แต่แกกลับเข้าใจเราบางด้านได้แจ่มชัด 55
อาจเพราะว่ามันเป็นด้านที่คล้ายแกป่าววะแกเลยเก็ท
แกเปน....
เรารู้สึกสบายใจอ่ะ :]