ประเด็นหนึ่ง
ระหว่างนั่งอยู่ในรถตู้สาธารณะที่วิ่งไป วิ่งไป กระโดดสายตาไปสำรวจคุ้ยเขี่ยว่าคนขับรถตู้คันนี้เขาวางอะไรไว้ด้านหน้ารถบ้าง
มีแบงค์พันรูปพระสงฆ์รูปหนึ่งแปะอยู่บนเพดาน มีป้ายคำว่าจตุจักร-ปากเกร็ดติดระบบไฟฟ้าให้สว่างในยามคืนได้
ฉันไล่สายตาไปทางขวา แทบจะตกสำรวจไปเพราะตำแหน่งมันไม่เด่น รูปสติ๊กเกอร์เชยเชย(เสียแล้วสำหรับปัจจุบัน)2รูปติดอยู่บนเพดานบนคนขับ คนในรูปเป็นเด็กน้อยสามคนยิ้มรื่นๆทำนองว่ายิ้มไปงั้นๆแหละ ก็มันเป็นpatternที่ทำกัน(เอ่อ นี่อาจเป็นการตีความไปเองของเราก็ได้นะเนี่ย เด็กเค้าอาจจะอยากยิ้มจริงๆ)
ฉันอยากร้องไห้ขึ้นมา
บทจะสะเทือนใจก็ด้วยสิ่งที่ผ่านหูผ่านตาชั่ววูบไหวเท่านี้เอง
ในโลกของการดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้อง โลกทุนนิยมที่เงินใหญ่คับปลิ้น คนขับรถนั้นตัวเล็กนิดเดียว โลกของคนขับรถก็อยู่แค่กับเส้นทางเดิมเดิม ถึงจตุจักรก็ขับไปปากเกร็ด ถึงปากเกร็ดก็กลับมาจตุจักร ขับวนมาแล้วก็วนไปจะเบื่อจะเอียนก็ต้องขับต่อไป และ ไม่มีใครมาใส่ใจว่าคนขับกำลังทำอะไร...ก็กำลังขับรถไง...นั่นไง เราใส่ใจแค่สิ่งที่คนขับทำแล้วมีผลกับตัวเราเท่านั้นเอง สักเข็มวินาทีหนึ่งเราก็ไม่เคยแบ่งไปคิดถึงคนขับว่าเอ้...เขาแบ่งเวรขับกันยังไง เขาได้พักกันตอนไหน ขับตอนกลางคืนเหงามั้ย..แม้จะนั่งรถร่วมกันเป็นชั่วโมงเราก็ไม่รู้สึกแปลกหน้ากับเขาน้อยลงเลย
แต่ในโลกของชีวิตที่เรียกว่าครอบครัว ความรักของพ่อแม่ยิ่งใหญ่เสมอ
เสมอทั้งในแง่สม่ำเสมอและในแง่เสมอกัน
ฉันชอบความรักก็ตรงนี้แหละ ไม่มีอะไรมาจำกัดได้ จะเศรษฐีหรือยาจก จะล้นหรือจะขาด ความรักก็ไม่เคยตกอยู่ใต้เงื่อนไขใดๆ
ความรักที่ยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้นได้อย่างอิสระ
และยิ่งไปกว่านั้น ความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกเป็นความรักที่น่าทึ่งจริงๆ
ความรักฉันท์สามีภรรยายังนอกใจกันได้ แต่ความรักลูกไม่ยักกะมีการนอกใจ
มีพ่อแม่คนไหนไปรักลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง???
อีกประเด็น(หลังจากเพิ่งซึ้งนิ่งๆกับรูปสติ๊กเกอร์ที่คาดว่าเป็นลูกของคนขับรถไป)
มีคำกล่าวชาหูที่ว่า รักแท้แพ้ระยะทาง
แต่สำหรับเรา ระยะทางทำให้ตระหนักถึงรักแท้...ที่มีมาตลอด
ที่คิดแบบนี้ก็ไม่ใช่ไรหรอก มาจากการห่างครอบครัวเท่านั้นเอง
นี้หละมั้งที่เค้าว่าอยู่ใกล้ไม่เห็น อยู่ไกลถึงจะเห็น
อยู่ใกล้เห็นแต่สิ่งไม่ดี อยู่ไกลกลับโหยหาแต่สิ่งดีๆที่เค้ามี
พออยู่ไกลแล้วรู้สึกรักและสำนึกพ่อแม่มากเลย...รักแท้หนอเป็นเช่นนี้
(สองเรื่องนี้รวมพลังกันแล้วทวีความอยากร้องไห้ขึ้นไปอีก T_T)
แล้วก็เลยมาเอ๊ะว่า รักแท้แพ้ระยะทาง???
รักแท้มันจะแพ้ระยะทางได้ไง ถ้างั้นมันก็ไม่ใช่รักแท้สิ
ดูขัดแย้งกันเอง
แต่ประโยคขัดแย้งแบบนี้ก็สื่อความได้ดี
เพราะประโยคนี้ที่จริงต้องการสื่อว่ารักที่เพียงระยะทางก็ถูกพรากไปนั้นไม่ใช่รักแท้
แต่รักที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าคงกระพันจากระยะทางก็บอกอะไรให้ตัวผู้รักเองเช่นกัน
หมายเหตุ ว่าจะวิพากษ์เรื่องโฆษณา hall ซักหน่อย แต่บิ้วอารมณ์เป็นโหมดรักใคร่ไปแล้ว
ค้างไว้ก่อน เรื่องรถติดด้วยอีกอัน อย่าลืมหละ